การดูดไขมัน Body-tite Vaser

การดูดไขมันที่ธีระธรฌ์ Body Tite / VASER / Water Assisted Liposuction

เพราะรูปร่างมีส่วนสำคัญต่อการแต่งตัวและแสดงออกถึงบุคลิกภาพ รูปร่างที่ดีจึงนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ความมั่นใจต่อทุกคน ในปัจจุบันได้มีการลดน้ำหนักกันมากมายหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมกันมากและมาแรงเป็นกระแสก็คือ การดูดไขมัน ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักแม้ไม่มากและได้สัดส่วนที่สวยงามตามมา เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกหลายตัว การดูดไขมัน เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้รูปร่างดูดีและได้สัดส่วนมากขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกิน ต้องการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะการดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่เป็นการสลายไขมันส่วนเกินที่มีอยู่ในร่างกายบริเวณจุดต่างๆ ออกไปทำให้รูปร่างมีสัดส่วนมากขึ้น เพราะการดูดไขมันมีความสำคัญที่ธีรธรฌ์คลินิกเราจึงคัดสรรเครื่องมือดูดไขมันหลายๆแบบเพื่อให้เข้ากับคุณ คนสำคัญสำหรับเรา

เครื่องมือที่ใช้ดูดไขมัน

1. Manual Liposuction คือการใช้เข็มปลายทู่ขนาดใหญ่ และเครื่องดูดสูญญากาศขนาดใหญ่เป็นตัวช่วยดูดไขมันออกมา
2. Power Assistant Liposuction เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ไขมันแตกตัวได้ดีขึ้น ทำให้ง่ายต่อการดูดกำจัดออกภายนอกร่างกาย ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและแรง
3. VASER Liposelection (Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance) เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ ปล่อยพลังงานคลื่นเสียงออกมาจากทั้งด้านบนและด้านข้างของหัวสัญญาณ เพื่อส่งไปทำให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนจนทำให้เกิดการทำลายเฉพาะเจาะจงแต่กับเซลล์ในส่วนของไขมัน (LipoSelection) สามารถสลายไขมันได้มากเท่าการดูดไขมันสลายไขมันแต่นุ่มนวลและมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันสลายไขมันแบบวิธีเดิม จากก้อนไขมันที่คล้ายเนยแข็งภายในร่างกายเรา จนทำให้กลายเป็นของเหลวอย่างง่ายดาย จากนั้นไขมันเหลวจะถูกดูดออกมาด้วยหัวดูดพิเศษ ไม่เกิดความบอบช้ำเหมือนวิธีการดูดไขมันสลายไขมันแบบเดิมๆ คนไข้จะใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นของการดูดไขมันสลายไขมันด้วย vaser liposelection ฟื้นตัวได้เร็วและบริเวณผิวที่ผ่านการดูดไขมันสลายไขมันสามารถคืนตัวสู่ความกระชับเนียนเรียบ ก็จะใช้เวลาฟื้นตัวเร็วตามไปด้วย โดยที่ไม่ได้ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง โดยเฉพาะเส้นเลือด เซลล์ประสาทและเนื้อเยื่ออื่นๆ บริเวณรอบๆ ก้อนไขมันที่เสียหาย และ VASER ยังช่วยให้ผิวพรรณกระชับเร็วขึ้น ทำให้ได้ผลการดูดไขมันสลายไขมันที่ดีที่สุดในขณะที่ มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
4. Water Assisted Liposuction เป็นการดูดไขมัน โดยใช้เทคนิคการพ่นน้ำในขณะที่กำลังดูดไขมัน เพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันเส้นประสาทและเส้นเลือดให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งในขณะที่พ่นน้ำก็สามารถดูดไขมันออกมาพร้อมกันในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดอันตรายแก่เนื้อเยื่อ เส้นประสาท เส้นเลือด และที่สำคัญจะทำให้ได้มาซึ่งเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ พร้อมนำไปใช้เติมเต็มส่วนๆต่างในบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกทั่วใบหน้า ด้วยผลลัพธ์ที่นานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ทั่วไป หรือ ฉีดนมสวย ทำหน้าอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงความอวบอิ่ม เต่งตึงให้แก่ มือ บั้นท้าย และเหนือระดับด้วยการทำ แฟตสเต็มเซลล์ (Fat stemcell) จากไขมันตัวเอง เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับร่างกาย
5. Body Tite เป็นการใช้เทคโนโลยี RF คือ การใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ชนิด Bipolar พลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุนี้จะส่งผ่านท่อขนาดเล็ก Cannula ขนาด 1-3 mm จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่เนื้อเยื่อผิว อุณหภูมิของผิวบริเวณที่ทำการ “ดูดไขมัน” จะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้นไม่เกิน 45° C และบริเวณด้ามจับจะมี Temperature Sensor สำหรับวัดอุณหภูมิที่ผิว ( เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความร้อนมากเกินไปที่เนื้อเยื่อ ) วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเซลล์ไขมันบริเวณที่ถูกทำลายจะสลายเป็นน้ำมัน( melt fat ) อย่างรวดเร็ว และถูก “ดูดไขมัน” ออกมาอย่างง่ายดายโดยผ่านท่อขนาดเล็กในทันที อาจจะมีไขมันส่วนเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ภายใน แต่ก็จะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ ในระหว่างการรักษา RF ยังทำให้เกิดการเสียเลือดได้น้อยมาก เพราะ Body Tite สามารถ Coagulation ห้ามเลือดไปด้วยขณะทำการ ดูดไขมัน เพื่อลดการสูญเสียเลือดระหว่างการรักษา ไขมันสามารถสลายและดูดออกมาได้ในปริมาณมากมีเลือดเจือปนน้อย โดยเป็นเครื่องสลายไขมันที่มีการใช้พลังงาน RF (Radio Frequency) ส่งผ่านท่อขนาดเล็ก Cannula ขนาด 1-3 mm ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ไม่ทำให้เกิดแผลใหญ่ นอกจากนี้ RF ยังทำให้กระชับเนื้อผิวที่หย่อนยานในครั้งเดียวที่ทำการรักษา หลังการทำ Body Tite จะไม่ทำให้เกิดเป็นพังผืดรัดตัว ผิวบริเวณที่ทำการ ดูดไขมัน เรียบเนียน กระชับไม่ต้อง

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันด้วย vaser liposelection

1. งดยาในกลุ่มที่จะมีผลต่อการหยุดไหลของเลือด เช่น งดแอสไพริน ก่อนดูดไขมัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดวิตามิน , อาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี , น้ำมันตับปลา , เมล็ดองุ่น , ใบแปะก๊วย , โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน
2. ควรมีญาติหรือเพื่อนเดินทางมาด้วย เพราะหลังจากดูดไขมันเสร็จคนไข้อาจจะยังเดินได้ไม่ถนัดควรมีเพื่อนหรือญาติมาช่วยประคอง
3. ในรายที่มีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมถึงหากมีประวัติแพ้ยาต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้ง
4. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังดูดไขมัน เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่จะทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล
5. งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 – 2 วัน ก่อนและหลังการดูดไขมัน
6. เตรียมภาวะติดใจให้พร้อมไม่ควรตื่นเต้นมาก และควรทราบว่าหลังการดูดไขมันมีโอกาสเกิดรอยช้ำ และความเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

ขั้นตอนการดูดไขมัน

1. ผู้ป่วยมาที่คลินิก จะมีเจ้าหน้าที่พาไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมเข้าห้องผ่าตัดเพือดูดไขมัน
2. แพทย์จะทำการวัดบริเวณที่ดูดไขมันและกำหนดพื้นที่ในการดูดไขมันให้ได้ปริมาณที่ไม่เท่ากันในแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยงาม
3. ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการดูดไขมันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4. ฉีดสารละลายยาชาแบบพิเศษไปในบริเวณที่จะทำการดูดไขมันจนทั่ว รอเวลายาชาออกฤทธิ์ 30-60 นาที
5. ทำการดูดไขมันโดนเครื่องมือดูดไขมัน VASER หรือ Body Tite
6. วัดดูสัดส่วน ความนูนเว้าและดูดไขมันปรับแต่งจนเข้ารูป

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากดูดไขมันจากธีระธรฌ์คลินิก

• ปรับรูปร่าง ลดสัดส่วน กำจัดไขมันส่วนเกินผิวเรียบเนียนกระชับปราศจากปัญหาผิวผิดรูปซึ่งมักพบได้จากการดูดไขมันแบบเดิม
• เป็นการลดสัดส่วน ไม่ใช่ลดน้ำหนัก โดย VASER จะช่วยลดสัดส่วนเฉพาะบริเวณที่ต้องการ
• ได้ผลดีกว่าการดูดไขมันแบบเก่า ( Liposuction )
• เกิดความเจ็บปวดและรอยช้ำน้อยมาก คนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว
• ผลการรักษาจะดีขึ้นเรื่อยๆ ผิวค่อยๆ กระชับขึ้น สัดส่วนเริ่มลดลง โดยจะเห็นผลชัดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังทำไปจนถึงเดือนที่ 2-3 หลังจากนั้น ถ้าดูแลควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผลดีจะคงอยู่ถาวรยิ่งขึ้น

ข้อแนะนำ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังดูดไขมันที่ธีระธรฌ์คลินิก

1. หลังการดูดไขมัน จะมีแผลเล็กๆ ห้ามโดนน้ำ โดยเด็ดขาด ใน 4วันแรก
2. ช่วง 1-3 วันแรก หลังการผ่าตัดแผลผ่าตัดอาจมีน้ำเกลือซึมออกมา ควรทำการเปลี่ยนผ้าก๊อตที่ปิดปากแผลอย่างน้อย 1 ครั้ง
3. ควรใช้ผ้ายืดรัดบริเวณที่ทำการดูดไขมันไว้ตลอดเวลา จนกว่าจะไม่มีน้ำซึม คนไข้จำเป็นที่จะต้องสวมชุดที่กระชับ การใส่ชุดกระชับหลังจากการดูดไขมันสลายไขมัน ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสวมใส่ชุดกระชับสามารถช่วยห้ามเลือดและลดอาการบาดเจ็บได้ และที่สำคัญคือทำให้ผิวหนังหดเข้ารูปได้เร็วยิ่งขึ้น
4. หลังการดูดไขมัน ควรงดออกกำลังกาย 4 สัปดาห์
5. ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
6. ห้ามคนไข้ทานของดอง อาหารรสจัด เพราะจะทำให้บวมน้ำ
7. หลังทำ 3 วันแผลจะเริ่มติด
8. ใน 1 เดือน เริ่มทำการรักษาความหย่อนของแผลเพิ่มเติม
9. ใน 3 เดือน อาการบวมเข้าสู่สภาวะปกติ