“เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง” หลายๆ คนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างกับการเสริมคางในวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมด้วยซิลิโคน หรือ การฉีดคางด้วยฟิลเลอร์ แต่วิธีการอีกแบบหนึ่งที่ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน และเป็นวิธีพื้นฐานของการศัลยกรรมคือการนำ “กระดูก” ของตัวคนไข้เองมาเสริมในบริเวณที่ต้องการให้ดูดีขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่คนไข้หลายคนเลือกเพราะอาจไม่อยากนำสารต่างๆ หรือซิลิโคนเข้าสู่ในร่างกาย จึงเลือกที่จะนำกระดูกของตนเองมาใช้ในการศัลยกรรมนั่นเอง
“เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง” คืออะไร แตกต่างจากแบบอื่นอย่างไร?
คางถือว่าเป็นส่วนสำคัญของใบหน้า โดยเฉพาะกับคนที่อยากมีใบหน้าที่เรียวสวย แต่ถ้าหากมีคางที่ทู่มน คางกว้าง คางสั้น ใบหน้า จะดูมีเสน่ห์และสมส่วนไปได้อย่างไร ดังนั้นจึงทำให้คนนิยมไปทำศัลยกรรมคางกันเป็นจำนวนมาก การทำคางจึงเป็นจุดเริ่มต้นของสาวๆหรือหนุ่มๆที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว หรือต้องการมีใบหน้าที่สมส่วนมากขึ้นครับ
การเสริมคาง มีกี่แบบ มีแบบใดบ้าง?
หากไม่นับการฉีดฟิลเลอร์ (เนื่องจากเป็นการฉีดให้คางได้ทรง) นั้น การเสริมคางก็จะมีหลักๆ อยู่ 2 แบบด้วย ซึ่งประกอบด้วย
การเสริมคางด้วยซิลิโคน
จุดเด่นของการเสริมคางชนิดนี้คือ ทำเป็นรูปทรงได้ง่าย อยู่ได้ถาวร และถ้าหากมีการอักเสบ ผิดรูป หรือไม่ชอบทรงก็สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งการเสริมซิลิโคน เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม
การเสริมคางด้วยซิลิโคนแบ่งออกได้ 2 แบบ ประกอบด้วย
เสริมคางแผลใน
วิธีนี้หมอทำการเปิดแผลด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลประมาณ 2 ซม. ข้อดีของการเปิดแผลในปาก คือ บวมช้ำเล็กน้อย รอยต่อน้อย ไม่เห็นรอยแผลเป็นด้านนอก
เสริมคางแผลนอก
คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางโดยจะทำการเปิดแผลขนาดประมาณ 2 – 3 ซม. สำหรับเสริมคางแผลนอก จะเป็นที่นิยม น้อยกว่าการ เสริมคางแผลใน เพราะวิธีนี้คนไข้บางคนอาจเกิดแผลเป็นนูน หรือ คีย์ลอยด์หลังผ่าตัด แต่การดูแลหลังผ่าตัดจะสะดวกมากกว่าแผลภายในครับ
การเสริมคางโดยใช้กระดูกของตนเอง
การเสริมคางด้วยวิธีนี้เป็นการตัดเลื่อนและต่อคางโดยใช้กระดูกของคนไข้ในการผ่าตัด ซึ่งจะเปลี่ยนโครงหน้าทำให้คางดูยาวขึ้นทั้งแนวหน้าด้านตรงและด้านข้าง อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาคางหุบ คางถอย คางยื่นได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ และสามารถอยู่ได้ถาวรเพราะเป็นกระดูกคนไข้เองอีกด้วยครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมคางโดยใช้กระดูกตนเอง…
- บุคคลที่มีลักษณะใบหน้าไม่ได้สัดส่วน
- บุคคลที่มีมีลักษณะใบหน้ากลมจนเกินไป ต้องการสร้างมิติให้กับใบหน้า
- บุคคลที่คางสั้น ต้องการเพิ่มความยาวคาง
- บุคคลที่คางกว้าง ต้องการให้คางเล็กหรือแคบลง
- บุคคลที่คางถอย สามารถปรับคางให้ยื่นไปข้างหน้าเพื่อรับกับปลายจมูกและหน้าผาก
- บุคคลที่คางยื่นเกินไป สามารถถอยคางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- บุคคลที่เสริมคางมาแล้ว และต้องการแก้คางเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม
ใช้กระดูกอะไรมาเสริมคาง?
กระดูกที่ใช้ในการเสริมคาง มาจากกระดูกที่ถูกตัดออกไปในขั้นตอนการเหลากราม โดยแพทย์จะทำการนำกระดูกมาเหลาให้ได้ขนาดที่เหมาะสมและต่อเข้ากับกระดูกที่คางที่มีมิติเข้ากับรูปหน้า
ความแตกต่างระหว่างการเสริมคางด้วยซิลิโคนและด้วยกระดูกของคนไข้เอง
การแก้ไขปัญหาคาง
ซิลิโคน:
เป็นการแปะซิลิโคนลงไปที่คางเท่านั้น เพื่อทำให้ทรงของคางคนไข้ดูดีมากขึ้น แต่ตัวซิลิโคนก็อาจทำให้ลักษณะคางของคนไข้ชัดเจนมากขึ้น เช่น หากคนไข้มีลักษณะของกระดูกคางที่กว้าง การแปะซิลิโคนลงไปก็จะทำให้กระดูกคางของคนไข้นั้นดูกว้างขึ้นกว่าเดิมอีกนั่นเอง
กระดูกของตนเอง:
เป็นแนวทางการเสริมที่ช่วยแก้ไขปัญหาคางที่ค่อนข้างทำได้ดีกว่าแบบซิลิโคน เพราะจะเปลี่ยนโครงหน้าทำให้คางดูยาวขึ้นทั้งแนวหน้าด้านตรงและด้านข้าง อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาคางหุบ คางถอย คางยื่นได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ และสามารถอยู่ได้ถาวร
รูปคางที่ได้
ซิลิโคน:
รูปคางที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติน้อยกว่า เนื่องจากใช้วัสดุสังเคราะห์ ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรูปคางเดิม
กระดูกของตนเอง:
รูปทรงคางจะดูธรรมชาติรับกับส่วนกราม สามารถลดความกว้างของคางได้และเหลาให้คางเรียวลงได้
ผลลัพธ์ระยะยาว
ซิลิโคน:
เมื่อเวลาผ่านไป เกิดปัญหาคางห้อยจากซิลิโคน รวมถึงอาจเกิดปัญหาซิลิโคนกัดกินกระดูกตัวเอง และไม่มีการรับรองว่าวัสดุสังเคราะห์จะอยู่แบบถาวรและปลอดภัย
กระดูกของตนเอง:
ผลลัพธ์คงอยู่ถาวรเนื่องจากเป็นกระดูกตัวเอง ไร้ปัญหาคางห้อยหรือซิลิโคนกัดกินกระดูก
การพักฟื้น
ซิลิโคน:
การพักฟื้นระยะสั้น คนไข้จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการเสริมคางแบบกระดูกตัวเอง
กระดูกของตนเอง:
คนไข้จะฟื้นตัวในระยะนานกว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคนไม่มากนัก
ของดีของการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง
- เนื่องจากกระดูกเป็นวัสดุที่มาจากร่างกายของคนไข้เอจึงทำให้ร่างการไม่เกิดการปฏิเสธ
- กระดูกสามารถสมานเข้ากับร่างกายและยึดเกาะได้เป็นอย่างดี มีมีการเคลื่อนย้ายของวัสดุ
- ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเสริมด้วยซิลิโคน
- เนื้อเยื่อด้านในไม่เกิดเป็นโพรงแคปซูล (พังผืด)
ระยะเวลาการผ่าตัดศัลยกรรมคาง
- เวลาผ่าตัด : 2 ชม.
- วิธีวางยา : ยาสลบ
- ตัดไหม : 2 สัปดาห์
- ระยะเวลาพักฟื้น : 2 – 4 สัปดาห์
ทำไมต้องเสริมคางกับ “หมอกัน”
ในแต่ละเคส ก่อนจะเสริมหมอจะประเมินโดยพิจารณาองค์ประกอบของใบหน้าจากหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก จมูก และกราม เพื่อให้ได้สัดส่วนคางที่เหมาะสม เข้ากับรูปหน้า และความต้องการของคนไข้แต่ละเคส นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนเหลาเฉพาะแต่ละคน เพื่อแก้ปัญหาคางของแต่ละคนด้วยนะครับ
ท้ายที่สุดก่อนจากกันไป อย่าลืมที่หมอแนะนำในการศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ ด้วยนะครับทุกคน ทางที่ดีปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญมีประสบการณ์เพื่อรับคำแนะนำและได้รับผลลัพธ์ที่คาดหวังตามมา หากมีคำถามสามารถทักเข้ามาสอบถามได้ทุกช่องทาง หรือเข้ามาปรึกษาได้ที่ธีระธรฌ์คลินิก ครับ